ทัวร์ยุโรป┃โครเอเชีย แกรนด์ทัวร์ 8 วัน 5 คืน EU025
♦ พิสูจน์แหล่ง “มรดกโลก” ครบทั้ง 6 แห่ง ในโปรแกรมเดียวประเทศเดียว
♦ อุทยานธารสวรรค์ “พลิทวิเซ่” ที่จะทำให้ท่านลืม “อุทยานจิ่วไจ้โกว”
♦ เที่ยวครบเมืองสวยที่ผสมผสาน ริมฝั่งทะเลอันเดรียติค แบบเจาะลึก และมีเวลาพอเพียงสบายๆ
♦ ล่องเรือในทะเลสาบพริทวิเซ่ และ ล่องเรือในทะเลอาเดรียติค ดื่มด่ำบรรยากาศสองรูปแบบ
♦ โอพาเทีย OPATIJA เมืองที่มีสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติค ธรรมชาติอันบริสุทธิ์ วิลล่าหรูหราสไตล์ออสเตรีย
♦ มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น สถาปัตยกรรมที่มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี และปัจจุบันได้บูรณะปฏิสังขรในสไตล์นีโอ-โกธิค
♦ สนามอารีน่า หรือ AMPHITHEATER สนามกีฬากลางแจ้ง ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับโคลอสเซียม ที่กรุงโรม
♦ พักเมืองมรดกโลก “ดูบรอฟนิค” 2 คืน รวมนั่งกระเช้าลอยฟ้า และ ขึ้นกำแพงเมืองโบราณ
♦ เน้นอาหารพื้นเมืองของชาวโครแอต เพื่อประสบการณ์แปลกใหม่ในการเดินทาง




วันแรก | กรุงเทพฯ – เวียนนา |
21.30 น. | พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ G สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เจ้าหน้าที่ คอยให้การต้อนรับพร้อมอานวยความสะดวก และเอกสารแก่ท่าน |
23.55 น. | ออกเดินทางสู่ เวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย โดยเที่ยวบินที่ OS 026 |
วันที่สอง | เวียนนา – ซาเกรบ (โครเอเชีย) – โอพาเทีย ( – / L /D ) |
05.35 น. | เดินทางถึง กรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย (แวะเปลี่ยนเครื่อง) |
07.00 น. | ออกเดินทางสู่ ซาเกรบ โดยเที่ยวบินที่ OS 681 |
07.50 น. | เดินทางถึง ซาเกรบ (Zagreb) |
เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยเมืองซาเกรบได้เฉลิมฉลองครบรอบ 900 ปี ในปี ค.ศ.1994 ที่ผ่านมาเป็นเมืองหลวงที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมและสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์มากมาย และเป็นหัวใจของการปกครอง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศ…
กรุงซาเกรบ ประกอบด้วยเขตเมืองUPPERTOWNที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่17ที่มีซุ้มประตูหินเป็นสัญลักษณ์ เขต LOWER TOWN ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่19และเขตเมืองใหม่ที่สร้างสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ตลาดกลางเมือง (Dolac Market) ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ มีสีสันสดใส ขายไม้ดอกไม้ประดับและผลไม้ราคาถูกมาก เดินสู่เขต LOWER TOWN แวะชมจัตุรัสกลางเมืองที่ล้อมรอบด้วยห้างร้านนาสมัย แหล่งชุมชนของชาว ซาเกรบชมอนุสาวรีย์ Ban Josip Jolacic ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อความอิสระจากชาวฮังการีเมื่อปี ค.ศ. 1848 รถราง FUNICULAR สู่ UPPER TOWN เพื่อชมบริเวณที่เป็นที่ทาการของรัฐบาล อีกทั้งยังเป็นที่ของ มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่นสถาปัตยกรรมที่มีอายุเก่าแก่กว่า800ปีและปัจจุบันได้บูรณะปฏิสังขรในสไตล์นีโอ-โกธิคงดงามด้วยหอคอยแฝดปลายแหลมสีทองอร่าม ภายในประดิษฐานรูปนักบุญองค์สาคัญต่างๆ เช่น นักบุญเซนต์ปี เตอร์, เซนต์ปอลล์ กำแพงหินโบราณ ยุคคริสต์ศตวรรษที่ 13 ที่สร้างรายล้อมเมืองเก่าที่คงความ อัศจรรย์ของภาพพระแม่มารีที่ไม่ถูกเผาทาลายเมื่อไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปีค.ศ.1731 ผ่านชมโบสถ์เซนต์มาร์ค ที่โดด เด่นด้วยหลังคาที่มีการปูกระเบื้องเป็นสีสัน ลวดลายตราหมากรุกแดงขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโครเอเชีย…เชิญ อิสระตามอัธยาศัยกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึก โอพาเทีย(OPATIJA) เมืองที่มีสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติค” ชื่อเดิมของเมืองนี้คือ ABBAZIA แต่ด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ประกอบกับอยู่ริมทะเลอาเดรียติค ที่มีวิลล่าหรูหราสไตล์ออสเตรีย จึงทาให้ โอพาเทีย เป็นเมืองท่องเที่ยวและพักผ่อนที่สาคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย รูปปั้นธิดาแห่งนกนางนวล (MAIDEN WITH THE SEAGULL) ซึ่งเป็นรูปปั้นที่แกะโดย ZVONKO CAR เป็นรูปสตรีงดงามที่มีนกนางนวลเกาะอยู่ที่มือ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเมือง มีเวลาอิสระตามอัธยาศัยให้ท่านได้เดินชมเมืองเข้าสู่ที่พัก GRAND ADRITIC HOTEL หรือเทียบเท่า 4 ดาว |
|
วันที่สาม | โอพาเทีย – พูล่า – โรวินจ์ – โพเรช (UNESCO) – โอพาเทีย (B / L /D ) |
เมือง พูล่า (PULA) โดยใช้เส้นทางลัดเลาะตามแนวหน้าผา ผ่านชมท้องทะเลสีครามสวยงามที่สุด โดยตรงข้ามจะมีเกาะใหญ่ 2 เกาะคือ เกาะ KRK และ เกาะ CRES เมืองพูล่า หรือ โพล่า ในภาษาอิตาเลี่ยน เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่มีความโดดเด่นในฐานะศูนย์กลางของคาบสมุทรอิตาเลียน เคยเป็นเมืองเป็นศูนย์กลางของแหลมอิสเตรีย และเคยเป็นดินแดนของประเทศอิตาลีมาก่อน ทาให้มีผู้คนใช้ภาษาอิตาเลี่ยน กันอย่างแพร่หลาย
สนามอารีน่า (ARENA) หรือ AMPHITHEATER สนามกีฬากลางแจ้ง ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับโคลอสเซียม ที่กรุงโรม นับเป็นอารีน่า ที่ใหญ่เป็นอันดับหก ที่สร้างขึ้นในยุคโรมันเรืองอานาจ จึงถูกสร้างขึ้นตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมโรมันอย่าง เดียวกับโคลอสเซียมของกรุงโรม สามารถจุผู้คนได้ถึง 22,000 คนโดยผ่านทางเข้าออก 20 ช่องทาง อารีน่าที่เห็น ในปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์ให้คงสภาพตามช่วงศตวรรษที่ 15 ที่มีการนาหินไปสร้างปราสาทและเมือง ในปัจจุบัน มักใช้เป็นสถานที่จัดงานโอเปร่า และดนตรีอื่นๆ รวมทั้งเป็นสถานที่จัดงานภาพยนตร์ประจาปีอีกด้วย โรวินจ์ (Rovinj) ระยะทาง 40 กิโลเมตร เมืองสวยชายทะเลที่ตั้งอยู่บนแหลมอีสเตรีย ด้วยความที่ดินแดนแห่งนี้ถูกปกครองโดยเวเนเชี่ยน และอยู่ภายใต้การปกครองของอิตาลีมาก่อน ทาให้สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมของเมืองนี้นั้นมีความคล้ายคลึงกับอิตาลีเป็นอย่างมาก ชมอาคาร บ้านเรือนและตรอกซอยขนาดเล็ก ที่พื้นปูด้วยหินก้อนเล็ก เมืองที่เต็มไปด้วยร้านกาแฟ และร้านอาหาร โบสถ์ St. Euphemia ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา โบสถ์สไตล์บาร็อคที่มียอดโบสถ์สูงถึง 61 เมตร และถือได้ว่าเป็นยอดโบสถ์ที่สูงที่สุดของแคว้น ชมเขตเมืองเก่า (Old Town) ที่เต็มไปด้วยความงดงามของตึกรามบ้านช่องที่เรียงเป็นแนวยาวในตรอกเล็กๆ ริมชายฝั่งทะเลอาเดรียติก ซึ่งบริเวณเมืองเก่าแห่งนี้มีลักษณะเป็นเกาะแยกตัวออกมาจากแผ่นดินใหญ่ แต่ได้มีการถมทะเลเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่เพื่อความสะดวกในการเดินทาง เมือง โพเรช (Porec) หรือ PARENZO ในภาษาอิตาเลี่ยน เมืองเก่าแก่อายุกว่า 2,000 ปีและศูนย์กลางของประวัติศาสตร์ เข้าชม บาซิลิก้า EUPHRASIANA ที่สร้างขึ้นในสมัยของบิชอบ EUPHRASIANA ในสมัยศตวรรษที่ 6 โดยภายในตกแต่งด้วยศิลปะแบบโมเสค ตั้งแต่ในสมัยของไบแซนไทน์เข้ามามีอานาจ และใน ปี ค.ศ. 1997 ได้รับเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ อิสระให้ท่านชมเมืองตามอัธยาศัย |
|
วันที่สี่ | โอพาเทีย – อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เจเซร่า (B / L /D ) |
อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ” โดยองค์การ UNESCO เมื่อปี 1979 อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 29,482 เฮคเตอร์ พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ามีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขาสลับซับซ้อน สวยงามร่มรื่นชมความงามของทะเลสาบ และน้าตกที่ไหลรวยรินลงสู่ทะเลสาบทั่วทุกหนทุกแห่ง นับร้อย นับพันน้าตก ตลอดทางเดินเคียงคู่ด้วยฝูงปลาแหวกว่ายในสระน้าใสราวกระจกสะท้อนสีครามของท้องฟ้าแวด ล้อมด้วย หุบเขา ต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น (การเดินเที่ยวใน อุทยานขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆ)
ล่องเรือข้ามทะเลสาบ KOZJAK ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานและเป็นทะเลสาบที่เชื่อมระหว่าง อุทยานตอนบนและอุทยานตอนล่าง เข้าสู่ที่พัก PRITVICE DEGENIJA HOTEL (โรงแรมเพียงแห่งเดียวในอุทยาน ระดับ 4 ดาว) |
|
วันที่ห้า | พลิตวิเซ่ – ซิบินิค – โทรเกียร์ UNESCO – สปลิท (B / L /D ) |
เมืองซีบีนิค (Sibenik) เมืองเก่าริมฝั่งทะเลอาเดรียติค ที่มีหลังคาอาคารบ้านเรือนทาด้วยกระเบื้องสีแสด สไตล์เรอเนอซองส์ ที่ได้รับอิทธิพลจากทางอิตาลี ชมสภาว่าการเมืองเก่า THE OLD LOGGIA ที่สร้างขึ้นราว ค.ศ. 15 นาท่านชม มหาวิหารเซนต์เจมส์ หรือ เซนต์จาคอบ ที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมอิตาเลี่ยน – ดัลเมเชี่ยนได้อย่างลงตัวงดงามด้วยยอดโดมและหลังคาที่ประดับด้วยแผ่นหิน จน ได้รับการยกย่องให้เป็น มรดกโลก จากยูเนสโก้เดินทางเลียบชายฝั่งทะเลงาม ระหว่างทางแวะชมเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโครเอเชีย คือ เมืองพรีโมสเตน ซึ่งเป็นเมืองเล็กที่สวยงามและเป็นเกาะเล็กๆ ในสมัยก่อนมีคนยกย่องให้ชาวเมืองนี้เป็น ชาวเมืองที่มีความอดทนมากต่อการใช้ชีวิต เนื่องจากภูมิประเทศเป็นภูเขาหินแต่ยังอุตสาหะปลูกพืชและทาการ เกษตรกรรม ให้ท่านได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเมืองที่สวยงามนี้… เมืองโทรเกียร์ (Trogir) เมืองมรดกโลกที่มีลักษณะเป็นเกาะเมืองเก่า ชมภายในเขตเมืองที่มีสถาปัตยกรรมในสไตล์ กรีก-โรมันโบราณ อาทิเช่น ประตูเมือง ที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อศตวรรษที่ 16 หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14 ผ่านชมมหาวิหารเซ็นต์ลอร์เลนซ์ ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12ใช้เวลาก่อสร้างนับสิบปี ที่มีความงดงามด้วยกรอบและบานประตูหิแกะสลักที่มีรูปปั้นสิงโต อดัม & อีฟและรูปสลักนักบุญองค์สาคัญ เมืองสปลิท (SPLIT) เส้นทางลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่งทะเลอาเดรียติคมีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีส้ม สลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะๆ / เข้าสู่ที่พัก ORA HOTEL SPLIT หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว |
|
วันที่หก | สปลิท – นีอุม (บอสเนีย) – ดูบรอฟนิค(โครเอเชีย) (B / L /D ) |
ดูบรอฟนิค (DUBROVNIK) เมืองทางใต้ของสาธารณรัฐโครเอเชียข้ามพรมแดนเสู่ประเทศบอสเนีย(แวะถ่ายรูป)ที่เรียกว่าเมืองนีอุมซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของโครเอเชียประชาการส่วนใหญ่ก็เป็นชาวโครเอเชียต่อด้วย เดินทางข้ามพรมแดนอีกครั้งหนึ่งเพื่อกลับเข้าสู่เขตประเทศโครเอเชียซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นดัลเมเทีย(Dalmatia)ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศบอสเนีย- เฮอร์เซโกวีน่า สู่ เมืองดูบรอฟนิค เมืองทางตอนใต้และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกทั้งเป็นที่จอดเรือสาราญขนาดใหญ่จอดเรียงราย เมืองดูบรอฟนิค (DUBROVNIK) เป็นเมืองที่สวยงามติดอันดับต้นๆของโลกซึ่งในอดีตเมื่อปี 1991 เมืองดูบรอฟนิค ได้เป็นเป้าหมายถูกโจมตีจากกองทหารยูโกสลาฟ บ้านเรือนกว่าครึ่งอนุสาวรีย์ต่างๆ เสียหายและทรุดโทรม และหลังจากนั้นในปี 1995 ได้มีการได้มีการลงนามในสนธิสัญญา ERDUT สงบศึก และเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ UNESCOและสหภาพยุโรปได้ร่วมกันบูรณะซ่อมแซม เมืองส่วนที่ เสียหายขึ้นใหม่ในระยะเวลาอันสั้นปัจจุบันเมืองดูบรอฟนิคก็กลับมาสวยงามอีกครั้ง มีการส่งเสริมให้เป็นมรดกโลกอีกเมืองหนึ่งชมทัศนียภาพของเมืองซึ่งดูบรอฟนิค ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลอเดรียติค ตัวเมืองจะ เป็นป้อมปราการโบราณที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง แนวกำแพงป้อมปราการที่มีขนาดกว้างขวางใหญ่โตล่องเรือพาโนราม่าชมความสวยงามของเมืองเก่าความงดงามของท้องทะเลอะเดรียติคสีน้าเงินครามเก็บภาพสวยงามประทับใจ(ประมาณ45 นาที) เกาะเมืองเก่าดูบรอฟนิค ชมกาแพงเมืองโบราณความสวยงามของแนวหลังคาสีส้มตระหง่านไปทั้งเมืองเก่า กาแพงแห่งนี้มีความยาวรวมกันประมาณ2 ก.ม.ท่านจะได้เพลิดเพลินชมความสวยงามโดยว่ากันว่าใครมาเมืองดูบรอฟนิค แล้วไม่ได้ขึ้นมาชมกาแพงเมือง โบราณแห่งนี้ ถือว่ามาไม่ถึงดูบรอฟนิค… เข้าสู่ที่พัก NEPTUN HOTEL DUBROVNIK หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว |
|
วันที่เจ็ด | ดูบรอฟนิค – เวียนนา – กรงเทพฯ (B / L /- ) |
เมืองชาฟตัท เมืองน้อยน่ารัก เป็นเล็กทางตอนใต้สุดของโครเอเชีย ที่เหล่ามหาเศรษฐีนิยมมา พักผ่อนและนาเรือยอร์ชมาเทียบท่า | |
14.55 น. | ออกเดินทางต่อสู่เวียนนา โดย ออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบิน OS 732 |
16.25 น. | ถึงสนามบินเวียนนา หมายเหตุ ระหว่างรอเครื่องในสนามบินเวียนนาสามารถซื้อสินค้าในสนามบิน หากราคาสินค้าในบิลเดียวกันเกิน 75 ยูโร สามารถทาภาษีคืนได้ (TAX REFUND) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ INFORMATION สนามบินเวียนนา |
19.55 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ OS 025 |
วันที่แปด | สุวรรณภูมิ – กรุงเทพฯ |
10.55 น. | เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ และความประทับใจ… |
หมายเหตุ | รายการเดินทางและเวลา อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ |
Additional Information
month | 04-เมษายน |
---|