02-635-3655

[vc_row css=”.vc_custom_1521028498272{margin-top: 20px !important;margin-right: 10px !important;margin-left: 10px !important;padding-bottom: 20px !important;}”][vc_column][vc_column_text]

ท่องดินแดนพม่า มนต์เสน่ห์ลุ่มแม่น้ำอิระวดี

พม่าเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล ราวกับได้ย้อนเวลามายังอดีต แต่ละที่มีเรื่องราวและความศรัทธา พร้อมชมวิถีชีวิตของชาวพม่าที่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมไว้ได้อย่างงดงามไม่มีเปลี่ยน

ทริปนี้เราจะไป มัณฑะเลย์ อังวะ อมรปุระ พุกาม และทะเลสาบอินเล (บินเข้า-ออก กรุงเทพ-มัณฑะเลย์)

ก่อนเข้าเขตเมืองมัณฑ์เรามาแวะที่กรุงอังวะกันก่อน อดีตเมืองหลวงเก่าของพม่าที่รุ่งเรืองและมีประวัติยาวนาน แม้จะล้มไปถึง 5 ครั้ง แต่ยังกลับมาตั้งใหม่ได้และยังเป็นเมืองที่น่าเที่ยวอีกเมืองหนึ่ง

ที่แรกเราจะไปนั่นคือ หอคอยเอนแห่งอังวะ ซากโบราณสถานที่สำคัญในรั้วกำแพงเมือง การไปครั้งนี้นี่ลุยสุดๆ ทั้งนั่งรถ ลงเรือ ขึ้นรถม้า เปิดประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่และสนุกมาก ไม่คิดว่าเราจะได้มาลองอะไรแบบนี้ คือดี!!

 

สูดอากาศอันบริสุทธิ์ ท่ามกลางท้องทุ่ง ถ้าห่มสไบนี่ใช่เลย 555555

 

รถถีบกับรถม้าอะไรจะถึงก่อนกัน

 

ถึงแล้ว หอคอยเอนแห่งอังวะ ป้อมสังเกตการณ์ เป็นสถานที่สำคัญของเมือง มีความสูง 90 ฟุต แต่เมื่อเกิดแผ่นดินไหว หอคอยแห่งนี้ก็พังทลายลงและเกิดการเอนเอียง จึงเรียกว่า หอเอน มาจนถึงทุกวันนี้

 

ถัดไปไม่ใกล้ไม่ไกลก็จะพบกับ วัดมหาอ่องมเหย่ป่งสั่น วัดที่ก่อสร้างด้วยปูนอย่างใหญ่โต และคงความเป็นเอกลักษณ์ลวดลายวิจิตรงดงามมาก ๆ ค่ะ ยิ่งตอนที่แสงกระทบที่ปูนถ่ายรูปออกมาสีเหลืองเหมือนทองเลย

 

ค่ำแล้วเราก็กลับมานอนที่มัณฑะเลย์แวะถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกที่ สะพานไม้อู่เป่ง สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก สร้างโดยเสนาบดีของพระเจ้าโบ่ต่อพญา ชื่อว่า เสาอู  จึงเรียกชื่อสะพานไม้นี้ ตามชื่อ คือ อู่เป่ง ใช้ไม้สักถึง 1,208 ต้น ซึ่งมีอายุมากกว่า 200 ปี สัญลักษณ์ที่เห็นแล้วรู้เลยว่าเป็นพม่า เป็นบรรยากาศที่ไม่ควรพลาดเลยจริง ๆ

 

ตื่นแต่เช้ามืดมาเข้าร่วม พิธีล้างหน้าพระมหามัยมุนี หรือ พระยะไข่ 1 ใน 5 มหาบูชาสถานของพม่า ซึ่งทำเป็นประจำทุกวันเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมามัณฑะเลย์

 

พระมหามัยมุนี เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของพม่า ชาวบ้านเชื่อกันว่าพระมหามัยมุนีคือลมหายใจของพระพุทธเจ้า เพราะพม่าเวลาปิดทองเค้าไม่ได้ลอกทองออกเหมือนคนไทย ทำให้แผ่นทองจำนวนมหาศาลทับกันจนพูนขึ้นมาเป็นปุ่มๆ เมื่อไปสัมผัสจะรู้สึกนิ่มเสมือนพระพุทธเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่

 

เอ้อ ที่นี่เค้ามีพิพิธภัณฑ์ด้วยนะ ภายในจะมีสมบัติที่พม่ายึดมาได้จากการตีเมืองอื่น เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ เข้าไปแวะชมกันได้ค่า

 

ต่อกันที่ พุกาม ไม่มาที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงพม่า เมืองเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 11 เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ และมีความสวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของพม่า จัดเป็นเมืองแห่งความรุ่งเรืองของอารยธรรมแห่งพระพุทธศาสนา สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น คือ เจดีย์จำนวนกว่า 4,446 องค์ จนได้รับการขานนามว่า   “เมืองแห่งทะเลเจดีย์”

 

เป็นบุญตาที่ได้เห็น มหาเจดีย์ชเวสิกอง ที่บรรจุพระธาตุสำคัญ 3 ส่วน คือ พระเขี้ยวแก้ว ที่กษัตริย์แห่งศรีลังกานำมาถวาย  พระธาตุกระดูกไหล่ ที่นำมาจากเมืองศรีเกษตร และพระธาตุพระนลาฏ (หน้าผาก) สร้างโดยพระเจ้าอโนรธามหาราชพระองค์แรก จัดเป็น 1 ใน 5 มหาเจดียสถานที่มีความศักดิ์สิทธิ์และสำคัญของชาวพม่า ทองอร่ามสวยงามสุดๆ

 

อีกหนึ่งไฮไลท์ เจดีย์อนันดา พุทธศิลป์ชั้นเอกแห่งเมืองพุกาม สร้างโดยกษัตริย์จันสิทธะ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนภูเขานันทมูลบนเทือกเขาหิมาลัย ดูรูปว่าสวยแล้ว ไปเห็นของจริงสวยกว่ามากกกกกก ต้องไปให้ได้เลยเมืองนี้

 

 

คืนนี้เราพักกันที่ Heritage Bagan Hotel แวะเอากระเป๋ามาเก็บ และสำรวจโรงแรมกันก่อนที่จะไปต่อ อิอิ

 

นี่ก็เป็นบรรยากาศโรงแรมคร่าวๆ

 

ไปต่อกันที่ มหาเจดีย์ธรรมยังยี เจดีย์อิฐสีแดงที่ยิ่งใหญ่และแข็งแรงที่สุดในพุกาม

 

สร้างขึ้นโดยกษัตริย์นราธุ เนื่องจากพระองค์ทรงวิตก ผลกรรมจากการกระทำในชาตินี้ จึงสร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อล้างบาป และควบคุมการสร้างด้วยพระองค์เอง ช่างจะต้องวางเรียงศิลาไม่ให้มีช่องว่าง แม้แต่เข็มเล็กๆ หากตรวจพบว่าสอดเข้าไปได้ ช่างก่อสร้างจะถูกสั่งประหารทันที แต่การก่อสร้างยังไม่เสร็จพระองค์ก็ถูกปลงพระชนม์เสียก่อน แต่พระองค์ก็ได้ชื่อว่า เป็นผู้ที่สร้างวัดที่ใหญ่ที่สุดในพุกาม

เข้าไปชมความยิ่งใหญ่อลังการ

 

 

นี่เป็นหุ่นกระบอกที่เขาแขวนกับต้นไม้ ใครถูกใจตัวไหนก็ซื้อกันไปจ้าา แอบหลอนนิดๆ แต่ก็แปลกดี

 

นี่มาพุกามจะพลาดชมเมืองแห่งทะเลเจดีย์ได้ไงล่าาาา เก็บบรรยากาศพลบค่ำกันหน่อย!!

 

ฮุยเล ฮุยเล เช้าวันต่อมา เราก็มุ่งหน้ามาที่ ทะเลสาบอินเล ทะเลน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในพม่า

 

ในส่วนของวันนี้ก็จะชิวๆ ไหว้พระ เดินชมหมู่บ้านต่างๆ นั่งเรือหางยาว ชมวิถีชีวิตชาวอินตา

 

พร้อมพักผ่อนที่รีสอร์ทริมทะเลสาบ INLE MYANMAR TREASURE HOTEL อากาศดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  รีสอร์ทสวยงามคืนนี้จะถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจ

 

บรรยากาศสุดโรแมนติกที่พม่าก็มีนะจ๊ะ

 

ชอบห้องพักที่นี่มากเลย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่โฮมเสตย์  อันนี้มาเป็นคู่ แต่ไม่ใช่คู่เลยต้องแยกเตียง 5555

 

มุมปั่นงาน แหมมาเที่ยวก็ยังจะสั่งงานเนอะ 555

 

มุมสนทนา

 

ห้องน้ำก็อลังน้า มีอ่างด้วย ตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นฝักบัวเฉยๆ ประทับใจ!!

 

พามาชมบรรยากาศข้างนอกบ้าง มุมล็อบบี้

 

มุมอาหาร ว้าวววววว ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ อิอิ

ยังๆ ยังไม่จบ ต่อให้อีกคืนก่อนกลับ ที่ MANDALAY HILL HOTEL เป็นอีกโรงแรมหนึ่งที่ประทับใจในทริปนี้ สไตล์การตกแต่งสวยงาม ให้อารมณ์ขลังๆ

วันสุดท้ายแล้วววว ก่อนกลับมาชมวิวที่มัณฑะเลย์ฮิล และพระราชวังมัณะเลย์

นี่ๆ พระราชวังไม้สักชเวนานจอง ไม้สักแกะลายงดงาม เดิมเป็นตำหนักที่ประทับยามแปรพระราชฐานของพระเจ้ามินดง

แต่เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าธีบอหรือสีป่อ  พระโอรสก็ทรงยกวังหลังนี้ถวายเป็นวัด โดยมีเจ้าอาวาสวัดข้างๆเป็นผู้ดูแล  ซึ่งก็ทำการบูรณะแต่เพียงภายนอกบางส่วนเท่านั้น   แต่ภายในยังคงเดิมทุกประการ  สังเกตไม้กระดานและเสาแต่ละต้นล้วนขนาดใหญ่โต  พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก ถือเป็นศิลปะที่ปราณีตสุดๆ

ปิดท้ายด้วย เจดีย์วัดกุโสดอร์ อีกหนึ่งผลงานของพระเจ้ามินดง

โดยพระองค์ต้องการให้พระเจดีย์เเห่งนี้เป็นอนุสรณ์ในการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 4 ในสมัยของพระองค์ ซึ่งจัดทำขึ้นอย่างใหญ่โตเเละได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากพระองค์ โดยตัวเจดีย์นั้นมีความสูงกว่า 30 เมตร ล้อมรอบไปด้วยมณฑปสีขาวสะอาดตา

ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระไตรปิฎกภาษาบาลีที่สลักลงบนเเผ่นหินอ่อนกว่า 729 แผ่น โดยถือกันว่าเป็นพระไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมาเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้ เจดีย์วัดกุโสดอร์ จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการมาเที่ยวชมเมื่อพวกเขามาเยือนเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเราก็ถือว่า mission complete แล้วเนอะ ป้ะ กลับบ้านได้ บ้ายบายค่า

ขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก ไกด์เบิร์ด ♥

[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]